skip to main
|
skip to sidebar
...ดอกกระเจียว...
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2550
สื่อการเรียนการสอน "สีไม้"
ชื่อ Baby's toys
สำหรับช่วงชั้นที่ 2
วิธีการสอน
1. What toys does baby like to play?
A baby likes to play stuffed animal.
2. What toys does boy like to play?
A boy likes to play cray.
3. What toys does boy like to play?
A girl likes to play doll.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หนาวนี้ที่ผาแต้ม
หลังจากทำบุญ ก็เดินทางหาประสบการณ์
คิดอย่าไรไม่ให้เครียด
******เครียด เป็นภาระที่ทุกคนไม่อยากประสบพบพาน แต่คงไม่มีใครที่ไม่เคยเครียด ดังนั้นมาทำความรู้จักกับความเครียด และวิธีการคิดเพื่อที่จะได้ไม่เครียดกันดีกว่า การลดความเครียดจึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีคิดที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งวิธีคิดที่เหมาะสมได้แก่
***1. คิดในแง่ยืดหยุ่นให้มากขึ้น อย่าเอาจริงเอาจัง เข้มงวดจับผิด หรือตัดสินถูกผิดตัวเอง หรือผู้อื่นตลอดเวลา รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา ผ่อนสั้น ผ่อนยาว ลดทิฐิมานะและที่สำคัญควรรู้จักการให้อภัยก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น และมีความเครียดน้อยลง
***2. คิดอย่างมีเหตุผล ไม่ด่วนเชื่ออะไรง่าย ๆ ไม่ด่วยสรุปอะไรง่าย ๆ ให้พยายามใช้เหตุผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ความเป็นไปได้ ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ตกเป็นเหยื่อให้ใครหลอกเอาง่าย ๆ แล้ว ยังสามารถตัดความกังวลใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้อีกด้วย
***3. คิดหลาย ๆ แง่มุม มองหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านดีและไม่ดี พึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกอย่างมีข้อดีและข้อไม่ดีประกอบกันทั้งสิ้น จึงไม่ควรมองด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียวให้ใจเป็นทุกข์ และที่สำคัญ ควรหัดคิดหัดมองในมุมของคนอื่นด้วย อย่างที่เขาเรียกว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะช่วยให้เรามองอะไรได้กว้างไกลกว่าเดิม
***4. คิดแต่เรื่องดี ๆ เพราะหากว่าเราคิดแต่เรื่องร้าย ๆ เรื่องความล้มเหลวผิดหวังหรือเรื่องที่เป็นทุกข์ ก็จะทำให้เครียดมากขึ้น ควรคิดถึงเรื่องดี ๆ ให้มาก ๆ นอกจากไม่ทำให้เครียดแล้วยังทำให้สบายใจมากขึ้นด้วย
***5. คิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น เปิดใจให้กว้างรับรู้ความรู้สึกและความเป็นไปของคนอื่นและคนใกล้ชิด ใส่ใจที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้อื่นในสังคม บางครั้งจะพบว่า ปัญหาหรือความเครียดที่กำลังเผชิญอยู่นั้นเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับปัญหาของผู้อื่น ซึ่งความรู้สึกแบบนี้จะทำให้เครียดน้อยลง จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น และยิ่งถ้าสามารถช่วยให้ผู้อื่นแก้ไขปัญหาได้ ก็จะทำให้สุขใจมากขึ้นเป็นทวีคูณเลยทีเดียว
ลัชดา สมญาติ (เจ้าหน้าที่เวชสถิติ 5)
กงล้อแห่งความดี
******ส่วนขอบรอบนอกของล้อรถหรือล้อเกวียน เรียกว่า "กง" สมัยก่อนกงล้อเกวียนทำด้วยไม้หลายชิ้นมาต่อกันเข้าเป็นวงกลม แต่ละชิ้นมีความแข็งแรงและถูกตรึงเป็นเนื้อเดียวกันด้วยสลัก คุณภาพของกงล้อย่อมเกิดจากคุณภาพของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นที่นำมา ต่อตรึงเข้าด้วยกันอย่างมีคุณภาพ
"กงล้อของความเป็นครู" จะมีคุณภาพได้ก็ต้องอาศัยความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันอย่างมีคุณภาพของ "ชิ้นส่วน" ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ ชิ้นส่วนกงล้อของความเป็นครูดีประกอบด้วย
***1. คุณสมบัติดี คือ มีคุณสมบัติและคุณลักษณะดี เช่น ความรู้ ความสามารถ บุคลิกภาพ สุขภาพ คุณวุฒิ นิสัย วิสัยทัศน์ ค่านิยม คุณธรรมประจำตัว ประจำใจของครูแต่ละคน
***2. ปฏิบัติตนดี คือ เป็นพลเมืองดีและปฏิบัติตามจรรยาบรรณครู
***3. ปฏิบัติงานดี คือ วางแผนดี สอนดี แนะแนวดี จัดกิจกรรม การเรียนรู้ดี ปกครองดี ประเมินผลดี ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจดี และเป็นกัลยาณมิตรต่อศิษย์ทุกคน
***4. ผลงานดี คือ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ฉลาด คิดเป็น เก่ง เป็นคนดี มีวินัย มีความสุข พึ่งตนเองได้
***5. สวัสดิการดี คือ ได้รับผลตอบแทนเป็นสวัสดิการและความก้าวหน้าทางอาชีพอย่างเหมาะสมกับการปฏิบัติและผลงานที่เกิดขึ้น
***6. ศักดิ์ศรีดี คือ ได้รับการยกย่องและให้เกียรติจากผู้ร่วมงาน ชุมชนและสังคมว่าเป็นผู้มีคุณค่าต่อชุมชน สังคมและประเทศ
ภาพนี้สวยสุดๆ
รวมดาวหอพัก
คำสอนของพ่อ
.......พ่อ คือ ผู้ที่เรารักและเคารพเหนือสิ่งอื่นใด ถึงแม้ท่านจะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง หรือโลกของความคิดถึง ห่วงหา แต่คำสอนของพ่อยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา "พ่อ ไม่มีเงินทองจะกองไว้ให้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พ่อให้ลูกได้ คือความรัก และการศึกษา เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถติดตัวลูกรักของพ่อไปตลอดชีวิต ถึงแม้พ่อจะไม่มีที่ดิน ทรัพย์สิน เงินทอง แต่พ่อก็จะขวนขวายหาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ลูกของพ่อได้เรียนหนังสือ จนมีปัญญาและความรู้ สู้กับใครๆได้ อย่างไม่อายคนอื่น" ในโอกาสนี้ดิฉันขอระลึก และอุทิศความดีที่ทำส่งให้แด่ดวงวิญญาณ คุณพ่ออุดม ศรีหาวัตร พ่อผู้เป็นที่รักยิ่งเหนือสิ่งอื่นใดในสากลโลกนี้........
สายใยแห่งรัก
..........สายใยแห่งรักนั้นเริ่มต้นจากความรักที่มอบให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบเพื่อนสู่เพื่อน หรือจากคนที่เรารัก ทุกแบบของความรักนั้นมีการเริ่มต้น และมีการสิ้นสุดลง แต่ความรักอีกแบบหนึ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งถักทอเป็นสายใยได้อย่างแน่นแฟ้นก็คือ ความรักของพ่อแม่ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ และมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสายใยที่ไม่มีทางที่จะตัดขาด ทุกตัวอักษรที่เรียงร้อยในบทความนี้ ผู้จัดทำได้ใส่ความตั้งใจลงไปในนี้ด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้คุณรักครอบครัวมากขึ้น รักพ่อแม่มากขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ
เกี่ยวกับฉัน
Auy - eng
.......ดิฉันนางสาวพรรณิภา ศรีหาวัตร อายุก็พอประมาณกำลังเรียนอยู่ระดับอุดมศึกษา ชั้นปีที่ 4 โปรแกรมภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ เป็นลูกสาวคนโตของบ้านหลังน้อยอันอบอุ่น แม้พ่อผู้เป็นที่รักจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่พ่อก็ยังอยู่ในหัวใจของลูกๆ ดังนั้นจึงเป็นครอบครัวที่อบอุ่นได้ มีพี่น้อง 1 คน คือน้องสาววัยกำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนถิ่นฐานบ้านเกิดนั้นคือ จังหวัดชัยภูมิ ดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียว และผาหินงานที่สวยงาม......
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
ภาพประทับใจ
เกร็ดน่ารู้
...การสังเกตเพื่อเตรียมการน้ำท่วม...
การสังเกตเพื่อเตรียมการรับสถานการณ์มีหลายอย่าง ดังนี้
อย่างแรก คือ "ปีมะโรงน้ำแดง" หมายถึงพอครบรอบถึงปีมะโรง จะมีน้ำท่วมใหญ่ คือท่วมมากเป็นพิเศษ ที่ว่าน้ำสีแดงเพราะมีพื้นดินถล่มแถวต้นน้ำ ซึ่งมักเป็นดินลูกรัง ผู้คนจะระมัดระวังเป็นพิเศษในปีมะโรง ก่อนถึงหน้าฝนจะกักตุนอาหารการกินทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง เช่นข้าวสาร อาหารแห้ง กักตุนไว้มาก ๆ จะเน้นข้าวสารและปลาแห้ง ปลาเค็ม ไม้ฟืน น้ำมันก๊าด เกลือ ตลอดจนฟางข้าวตากแห้งไว้ตั้งแต่หน้าแล้ง เก็บใส่โรงเรือนเรียก "โรงซัง" ไว้ให้วัวกินยามน้ำท่วมใหญ่
อย่างที่สอง คือ ในแต่ละปีจะสังเกตใบหญ้าก่อนถึงหน้าฝน เช่นใบหญ้าครุน หรือหญ้าปล้อง ดูที่กิ่วหยักของใบหญ้า ปกติถ้าฝนตกตามฤดูกาลธรรมดาจะมีกิ่วหยักเดียว และกิ่วไม่ลึก ถ้ากิ่วลึกแสดงว่าฝนตกหนัก ถ้ากิ่วสองหยักน้ำจะท่วมสองครั้ง จะห่างกันประมาณห้าวันหรือสิบวัน ให้สังเกตรอยกิ่วแต่ละกิ่ว หรือรอยหยัก ว่ามากหรือน้อยแค่ไหนก็ให้ประมาณเอา ถ้าใบหญ้ากิ่วสามหยัก น้ำจะท่วมสามครั้ง และครั้งไหนมากกว่ากันก็ดูที่หยักไหนลึกหรือตื้นกว่ากัน นับจากโคนใบไปปลายใบอย่างที่สาม คือ เมื่อน้ำท่วมแล้ว ให้สังเกตที่ดอกชุมเห็ดใหญ่ (เทศ) ว่าดอกบานหมดแล้วหรือยัง ถ้ามีดอกที่เตรียมจะบานในครั้งต่อไป น้ำจะท่วมอีกครั้ง หรือว่าจะท่วมอีกกี่ครั้ง ก็ให้สังเกตต่อว่ายังมีที่บานไม่หมดอีกไหม ซึ่งดอกชุมเห็ดเหล่านี้รอจะบานตอนน้ำท่วม แต่วิธีนี้จะใช้สังเกตเมื่อมีน้ำท่วมเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น เพื่อดูว่าจะมีน้ำท่วมอีกไหม เพื่อจะได้ขนข้าวของ เคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ที่เดิม ไม่ต้องเสียเวลาขนไป ขนมาหลายครั้ง
http://gotoknow.org/blog/daddystory/10205
12 ราศี อ่านไว้ไม่เสียหาย
“ผู้ที่เกิดปี ฉลู วัวจอมขยัน”
ลักษณะเฉพาะ: สุขุม มีหลักการ ไม่ยืดหยุ่น ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง จุดเด่น: สุขุม ไม่ผลีผลาม กล้าตัดสินใจ จุดอ่อน: ต้องการความแน่นอนในชีวิต เป็นคนเงียบและเดายาก คู่รักที่เหมาะสม: ปีมะเส็ง ระกา หรือชวด ผู้ที่เกิดปีฉลูเป็นคนขยัน แน่วแน่ และเชื่อมั่นในตัวเอง ด้วยความที่มีมาตรฐานความดีความชั่วแบบขาวกับดำ จึงมักตัดสินผู้อื่นอย่างไร้การประนีประนอมด้วยมาตรฐานเหล่านั้น คนเกิดปีนี้ไม่ชอบเข้าสังคม และมักจะเงียบมากตามงานปาร์ตี้ต่างๆ ภายใต้ลักษณะภายนอกอันสงบนิ่งนั้นซุกซ่อนความช่างคิด และความรุนแรงหากถูกยั่วให้โกรธเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยจึงมิควรทำให้คนเกิดปีฉลูโกรธเอา คนเกิดปีฉลูเป็นนักสังเกตการณ์ที่ดี มีความจำเป็นเลิศ และสามารถรายงานทุกสิ่งที่พบได้อย่างแม่นยำ ถ้าพูดถึงครอบครัวแล้ว คนเกิดปีฉลูนับว่าเป็นสมาชิก ครอบครัวที่เยี่ยมมาก ส่วนเรื่องการงาน ชาวฉลูก็ทำได้ดีในเรื่องที่เกี่ยวกับศิลปะ รับเหมาก่อสร้างหรือแม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ นอกจากนั้นความสามารถในการใช้สองมือเพื่อทำสิ่งต่างๆ บวกกับความฉลาดจึงทำให้ชาวฉลูเป็นศัลยแพทย์ได้ดีเช่นกัน คนเกิดปีฉลูนั้นตื้อและยึดมั่นในความคิดของตนเอง โดยเชื่อการตัดสินใจของตนเองอย่างไม่มีการเสียใจภายหลัง นอกจากนั้นยังเป็นคนรักครอบครัว แม้จะคิดอยู่เสมอว่าบุคคลใกล้ชิดไม่เข้าใจตัวเองก็ตาม แต่ชาวฉลูก็ยังเป็นคนอดทน เป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น และเป็นเพื่อนที่น่าคบคนหนึ่ง ชาวฉลูนั้นมีความรับผิดชอบสูง ซื่อสัตย์ เห็นความสำคัญของครอบครัว และหัวโบราณ แม้จะไม่ใช่คนขี้หึง แต่ชาวฉลูก็ถือว่าตนเองมีสิทธิ์ได้รับความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียวจากคู่ของตนเสมอ คู่ที่เหมาะกับคนปีฉลูที่สุดคือคนที่เกิดปีชวด ระกา มะเส็ง หรือวอก รองลงมาคือผู้ที่เกิดปีฉลูด้วยกันเองหรือผู้ที่เกิดปีเถาะ ที่พอเข้ากันได้บ้างก็คือผู้ที่เกิดปีกุน หรือจอ ที่ไม่ถูกกันอย่างยิ่งคือผู้เกิดปีมะเมีย หรือปีขาล
เพื่อนรักวัยเรียน
http://yuwadeeenglish.blogspot.com
http://thidaratee.blogspot.com
http://starteacher1984.blogspot.com
http://somkitenglish.blogspot.com
http://siripim.blogspot.com
http://sirinapaeng.blogspot.com
http://sirigate.blogspot.com
http://rungnapha.blogspot.com
http://pondpui.blogspot.com
http://narissaraenglish.blogspot.com
http://lamai.blogspot.com
http://kritsanaphol.blogspot.com
http://kitiyapornenglish.blogspot.com
http://kanok-orn.blogspot.com
http://kaeprakhon.blogspot.com
คลังบทความของบล็อก
▼
2007
(11)
▼
กันยายน
(11)
สิ่งที่ได้รับจากเรียน
การเรียน Photoshop
การสร้างสื่อการเรียนการสอน
ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอน
สื่อการเรียนการสอน "สีไม้"
เรียนวิธีทำ Blog
Blog สวยด้วยมือเรา
การบันทึกชิ้นงาน
การตัดภาพ
คำว่า "Filter"
ภาพตัวอย่างการใช้ Filter
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น